โพสต์ที่ 2

𓏲 ๋࣭ การศึกษาค้นคว้า˖ ࣪⭑🐈‍⬛

เรื่อง เว็บไซต์ CMS

1.ความหมายของเว็บไซต์

    ระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System : CMS) คือ ระบบที่พัฒนา คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดทรัพยากรในการพัฒนา (Development) และบริหาร (Management) เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ในการสร้างและควบคุมดูแลไซต์


2.ที่มาของ CMS

    CMS ย่อมาจาก Content Management System พัฒนาและคิดค้นขึ้นเพื่อลดทรัพยากรในการสร้างและบริหารเว็บไซต์ เป็นระบบที่ช่วยสร้างและบริหารเว็บไซต์สำเร็จรูป ทำให้สามารถลดกำลังคน เวลา และต้นทุนไปได้มาก ซึ่งการใช้งาน CMS นั้น ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้ เพียงแต่ศึกษาการใช้งานระบบนั้นๆ ก่อน ทั้งยังมีโปรแกรมหรือปลั๊กอินต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นของเว็บไซต์ได้ เช่น ถ้าเป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ก็สามารถเพิ่มตะกร้าสินค้าลงไปได้ โดยเราไม่จำเป็นต้องพัฒนาเว็บไซต์เอง


3.ความสำคัญ CMS

    สร้างเว็บไซต์ได้ง่าย ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมก็ทำได้

    ประหยัดเงินลงทุน เพราะถ้าจ้างบริษัทพัฒนาเว็บไซต์โดยใช้ CMS จะมีค่าจ้างที่ถูกกว่าการใช้ CMS สำเร็จรูปโดยตรง

    ประหยัดเวลา ถ้าทำด้วยตนเองก็ไม่ต้องเสียเวลาศึกษาด้านโปรแกรมมาก

    สวยงาม มีหน้าตาเว็บไซต์หรือ Theme หลายแบบให้เลือก

    มีปลั๊กอินให้เลือกใช้ตามความต้องการ เช่น ตะกร้าสินค้า ปุ่มแชร์ไปยังเฟซบุ๊ก คอมเมนต์ด้วยไอดีเฟซบุ๊ก เป็นต้น

    ดูแลง่าย เพราะระบบมีรูปแบบที่จัดการง่าย มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา


4.การประยุกต์ใช้ CMS ในงานต่างๆ

    : ระบบ CMS สามารถนำมาประยุกต์ในงานต่างๆ หลากหลาย ตัวอย่างการนำซอฟต์แวร์ CMS มาประยุกต์ใช้งาน อาทิเช่น
    • การนำ CMS มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์สถาบันการศึกษา ธุรกิจบันเทิง หนังสือพิมพ์ การเงิน การธนาคาร หุ้นและการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ งานบุคคล งานประมูล สถานที่ท่องเที่ยว งานให้บริการลูกค้า
    • การนำ CMS มาใช้ในหน่วยงานของรัฐ อาทิเช่น งานข่าว งานประชาสัมพันธ์ การนำเสนองานต่างๆ ขององค์กร
     การใช้ CMS สร้างไซต์ ส่วนตัว ชมรม สมาคม สมาพันธ์ โดยวิธีการแบ่งงานกันทำ เป็นส่วนๆ ทำให้เกิดความสามัครคี ทำให้มีการทำงานเป็นทีมเวิร์คมากยิ่งขึ้น
    • การนำ CMS มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ SME โดยเฉพาะสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP กำลังได้รับความนิยมสูง
    • การนำ CMS มาใช้แทนโปรแกรมลิขสิทธิ์ อื่นๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และง่ายต่อการพัฒนา
    • การใช้ CMS ทำเป็น Intranet Web Site สร้างเว็บไซต์ใช้ภายในองค์กร


5.ตัวอย่างเว็บไซต์ CMS



  • Joomla เป็น CMS ยอดนิยมที่อยู่มานาน และเป็นที่นิยมไม่แพ้กับ WordPress เลย ถ้าไม่มี WordPress ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง Joomla ก็ถือเป็นอันดับหนึ่ง จะเห็นว่าพวกเว็บราชการไทยชอบใช้ Joomla กัน (เพราะเป็นที่นิยมในอดีต) Joomla ใช้งานได้ฟรี ดาวน์โหลดติดตั้งที่ hosting ได้ฟรี มีปลั๊กอินและ Extension ให้ดาวน์โหลดได้ฟรีเช่นกัน ถ้าหากว่าเว็บของคุณไม่ได้จะต้องมี Blog หรือเพจที่มีตัวหนังสืออะไรมากมาย การใช้ Joomla อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า WordPress ซึ่งเหมาะกับเว็บจำพวกบล็อคมากกว่าก็ได้


  • Drupal มีดีที่ความปลอดภัยที่เหนือชั้นกว่าทั้ง Joomla และ WordPress ฟังก์ชันการใช้งานค่อนข้างยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการทำเว็บระดับมืออาชีพ แต่แน่นอนว่าคนทำเว็บก็ต้องเป็นมืออาชีพด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเว็บนี้จึงไม่เหมาะกับมือใหม่ที่อยากทำเว็บเล่นๆ ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์เท่านั้นจึงจะใช้งานได้อย่างเต็มที่



  • พูดถึงการทำเว็บ พูดถึง CMS คงไม่มีใครไม่นึกถึง WordPress เพราะเป็น CMS ที่ป๊อปปูล่ามากที่สุดในปัจจุบัน 36% ของเว็บไซต์บนโลกอินเทอร์เน็ตใช้ WordPress (ที่มา: เว็บ WordPress ตามรูป) แม้ว่าในอดีตจะดูเป็นเครื่องมือสำหรับคนที่เขียนบล็อค แต่หลังๆ WordPress ไปไกลกว่านั้นมาก สามารถทำอะไรได้เยอะแยะ และได้รับความนิยมอย่างมหาศาล เพราะการใช้งานที่สะดวก ปรับแต่งง่ายด้วยการดาวน์โหลดปลั๊กอิน ธีมมาใช้ แถมพอมีคนใช้เยอะ ทำให้เมื่อมีปัญหาก็สามารถแก้ปัญหาได้เร็ว เพราะการปรึกษากันในกลุ่มคนใช้งานบนอินเทอร์เน็ตนี่แหละ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Happy Valentine’s Day 🖇 ₊ 𓏻̶͙ 𓈒 .